SO YOU THINK YOU CAN DEEJAY?

ทุกวันนี้ใครๆ ก็เป็นหรือไม่ก็บอกว่าตัวเองเป็นดีเจกันไปทั่ว ต่อไปนี้คือคู่มือที่จะช่วยให้คุณเป็นหออย่างน้อยแสร้งว่าเป็นคนหนึ่งในโลกของอาชีพที่สุดยอดนี้"เครื่องชุดนี้ราคาล้านดอลลาร์ เชื่อผมเถอะมันใช้ได้" Emett พูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไร เขาคือผู้จัดการร่างเล็กวัยกลางคนของ John Barleycorn บาร์ยอดนิยมทางเหนือของแม่น้ำชิคาโก เสียงของเขายิ่งทำให้ผมรำคาญที่ทำได้ไม่ได้อย่างใจ ผมมีเครื่องเล่นแผ่นเสียง 2 เครื่อง มิกซ์เซอร์อยู่ตรงหน้า รู้สึกเหมือนกับ

ผู้ชายที่พยายามเค้นความเป็นชายของตัวเองออกมาต่อหน้าเสียงหัวเราะเยาะ Emmett มองเหมือนว่าผมเป็นเด็กอมมือ ตัวผมเองมีแผนอะไรอยู่นะหรือ ผมอยากจะเป็นนักเขียนผู้เชื่อว่าตัวเองสามารถเป็นดีเจได้หลังจากผ่านการฝึกส่วนตัวมาสองสามสัปดาห์ ตอนนี้ผมกำลังประหม่ากับความมุทะลุที่ไปถามถึงประสิทธิภาพของเครื่องเสียงที่มีแผงควบคุมมหึมาต่อสายกันเต็มไปหมดและลำโพงที่ให้เสียงเขย่าหัวใจในบาร์ของ Emmett อันเป็นสิ่งที่เหล่าสาวกนับร้อยเข้ามาที่แห่งนี้เพื่อสักการะดีเจผู้ยิ่งใหญ่ของเขา

บูธดีเจยกระดับจากห้องขนาดครึ่งหนึ่งของเบียร์ฮอลล์ คนกลุ่มเล็กๆ รวมตัวกันอยู่เบื้องล่าง พวกเขาคาดหวังบางอย่าง เมื่อผมตัดสินใจเข้ามาสู่วงการดีเจครอบครัวและเพื่อนๆ ได้แต่ประหลาดใจจะทำได้จริงหรือ? แดนตั้งสมญาตัวเองว่า DJ Lips จริงไหม? คืนนี้คือคืนชี้ซะตาลาก่อนความฝันเกี่ยวกับความผิดพลาดไม่มีการต้องอยู่ดีกๆ ดื่นๆ ในห้องรับแขกของตัวเองสวมหูฟังตั้งใจเชื่อมเพลงสองเพลงเข้าด้วยกันด้วยคอมพิวเตอร์ ดีวีดีบทเรียนสำหรับการเป็นดีเจ ตัดมันให้หมด John Barleycorn ให้งานผมด้วยการเป็นดีเจตลอดชั่วโมงนี้ เครื่องเสียงและลำโพงพร้อม Emmett พูดกับผมว่า "อย่าทำมันพังละ Lips"

การเป็นดีเจดูเหมือนง่าย กดปุ้ม โยกเอวให้บทเพลงสร้างอารมณ์ ลดจังหวะที่เร็วเกิน แล้วคนที่อยู่ในคลับกว่าครึ่งก็สนุกกับมัน นั่นทำให้ทุกวันนี้ทุกคนถึงเรียกตัวเองว่าเป็นดีเจ ตั้งแต่พวกหัวเรียบด้วยน้ำมัน พวกใส่หมวกกลับด้าน พวกร็อคล้วนอยากจะเปิดคลับในชั้นใต้ดินที่เวกัสพยายามอัพโหลดงานของตัวเองไว้ใน SoundCloud แล้วก็หวังว่าจะมีคนมากดไลค์ให้มากๆ ในเฟซบุ๊ค ต้องโทษรายชื่อดีเจขั้นนำ 40 คน อย่าง Guettas, Aviciis, Tiestos, Afrojacks ที่กลายเป็นคนดัง คนเหล่านี้มีรายได้ 6 หลักต่อโซว์ แค่กดปุ่มให้ถูกที่ถูกเวลา แค่กดปุ่มหรือ? แล้วคนดังทุกวันนี้ก็พยายามทำตัวเป็นดีเจ เหมือนที่มีนักร้องเพลงป็อปหญิงระดับแนวหน้าคนหนึ่งที่ไปเป็นดีเจที่คลับใหญ่โตในลาสเวกัสเมื่อปีก่อนใครๆ ก็ทำได้ใช่ไหมละ?" อืม จริงๆ แล้วมีคนอื่นที่คอยทำ

หน้าที่ดีเจ ขณะที่เธออยู่บนนั้นโชว์หน้าของเธอ" ผู้บริหารระดับสูงของคลับชื่อดังในลาสเวกัสแห่งหนึ่งบอกกับผมทำลายความฝันใหญ่โตของผมลงไปหลังจากคลายความผิดหวังผมโทรหาAfrojack ดีเจชาวดัชต์ผู้ช่วยโปรวซ์ให้กับนักร้องชื่อดังระดับโลกบางคน เขาบอกว่าเขาสามารถสอนผมให้เป็นดีเจในห้านาทีถ้าเขามีเวลา "การเป็นดีเจง่ายๆแค่เปิดดนตรีให้คนฟัง" ดีเจคนดังบอกง่ายขนาดนั้นเลยหรือ Fabian เป็นคนที่ดูธรรมดากว่าที่คาดลูกชายของอดีตร็อคสตาร์เวเนซูเอล่ามาพร้อมกับเสื้อคอเต่าสีเทากับกางเกงยีนส์รัดรูปสีดำ เขาดูเรียบร้อยเหมือนพนักงานร้านเสื้อผ้ามากกว่าจะเป็นผู้ฝึกสอนดีเจ "คุณ

คิดว่าผมดูเหมือนอะไร?" เขาถามผม

"เกรียน" ผมผยักหน้าเห็นด้วย "นั่นนะใช่เลยดีเจส่วนใหญ่เกรียน"ผมชอบ Fabian

เราอยู่ในตึกธรรมดาๆ ถัดจากโรงเรียนสอนทำอาหารในช่วงถนนที่ไม่น่าสนใจทางเหนือของชิคาโก ที่นี่คือ Scratch DJ Academy ผมมาที่นี่เพื่อเรียนวิธีที่จะเป็นซุปเปอร์สตาร์ เครื่องเล่นแผ่นเสียงแปดเครื่องและมิกซ์เซอร์วางอยู่บนโต๊ะสี่เหลี่ยมสองตัวในห้องปลอดเชื้อที่ตกแต่งด้วยภาพกราฟฟิตี้ เราจะใช้เครื่องที่ทันสมัยที่สุดของไพโอเนียร์ CDJ-2000 เครื่องรุ่นนี้มีจานวางแผ่นเสียงเสมือนอยู่ 2 จาน คลับกลางคืนส่วนใหญ่ใช้เครื่องรุ่นนี้ ที่เหลือก็ยังใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบเดิม เครื่อง CDJ ที่ผมเรียนทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่ต้องไปขุดหาแผ่นจากกองแผ่นเสียง คุณสามารถใส่เพลงที่มีทั้งหมดลงไปในทรัมบ์ดร์ฟเสียบมันเข้ากับ

เครื่องมิกซ์เซอร์ดิจิตอลแล้วก็เปิดได้ในพริบเครื่องนี้ยังวิเคราะห์จังหวะของแต่ละเพลงและให้คุณเลือกได้ว่าจะเริ่มเปิดเพลงช่วงแรกผมไม่มีอะไรที่ว่ามาเลยก็มีแอพพลิเคชั่นสำหรับเรื่องนี้ ดีเจหลายคนเลือกใช้ซอฟต์แวร์อย่างเช่น Serato หรือ Traktor เราอยู่ในยุคดีเจเสียบแล้วเล่นแล้วเราจะเริ่มเรียนอะไร? ผมรู้วิธีเสียบยูเอสบีอยู่แล้ว

ผมเริ่มโอหังเกินไปอีกแล้ว ผมรู้ว่าผมยังไม่ถึงขั้นแม้แต่จะเปิดเครื่อง ต้องจัดเรียงเพลงเสียก่อน หลังจากใช้เวลาเรียงเพลงอย่างน่าสงสารหนึ่งชั่วโมงผมรู้แล้วว่าผมยังอ่อนหัดนักการเป็นดีเจต้องใช้ความอดทนและเวลามีความคิดสร้างสรรค์และหมั่นฝึกฝน แม้แต่การต่อเพลงง่ยๆ เชื่อมเพลงสองเพลงด้วยกันก็เป็นเรื่องที่ยาก ความท้าทายหลักของผมคือทำให้จังหวะเข้ากัน หรือทำให้การเชื่อมเพลงไม่มีรอยต่อ แค่นี้ก็ยากแล้วถ้าจังหวะของแต่ละเพลงไม่เท่ากัน การจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทำให้จังหวะเข้ากันต้องการทักษะการฟังที่สามารถจับจังหวะและความเร็วของเสียงดนตรี รวมถึงมีรสนิยมทางดนตรี ซึ่งใน

ช่วงแรกผมไม่มีอะไรที่ว่ามาเลยแต่ช้าก่อน ด้วยความช่วยเหลือของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ Rekordbox ผมสามารถฝึกได้ที่บ้าน ภรรยาของผมบอกให้ผมหยุดฝึกเพราะเธอเริ่มจะจำเพลงที่ผมทำได้และเริ่มจะไม่ชอบใจ แต่ผมไม่สนใจ ผมกำลังถูกครอบงำ

หลังจากผ่านไป 5 บทเรียน ผมเริ่มมั่นใจพอที่จะเอาสิ่งเพลงที่ผมทำไว้ไปเข้าเครื่อง CDJ จากเทคโนโลยีการตรวจจังหวะเพลงของเครื่องช่วยให้ผมทำภารกิจนี้ได้ ผมเลือกเพลง 2 เพลงที่มีความเร็วใกล้เคียงกัน "Give it 2U" ของRobin Thicke และ "I Said" ของ Deadmau5 แต่หัวผมเต้นตุบๆ กับขั้นตอนของตัวเองลดเสียง วางคิวเพลง เพิ่มจังหวะ หมุนแป้นเพื่อให้เพลงใหม่เข้ากับเพลงที่เล่นอยู่ก่อนจะปล่อยเสียงออกลำโพง ผมเริ่มคลื่นไส้ผมเริ่มกระบวนการใส่เพลงของ Thicke เพิ่มเสียงเพลงหนึ่งขณะที่ลดเสียงอีกเพลง ผมมองไปที่เครื่อง CDJ ที่บอกว่าความเร็วอยู่ที่ 127 bpm จากนั้นผมปรับเพลงของ

Deadmau5 ให้จังหวะเท่ากันอย่างช้าๆ ผมต้องให้เพลงของ Deadmau5 เข้ากันกับเพลงของ Thicke ดังนั้นผมจึงเร่งให้เดินหน้าหรือหมุนแป้นให้เพลงเชื่อมกัน เมื่อได้จังหวะที่พอดีผมกดปุ่มเล่นบนเครื่อง CDJ แล้วค่อยๆ เพิ่มเสียงของ Deadmau5 ทั้งสองเพลงก็กลายเป็นเพลงเดียวกัน ผมค่อยๆ ลดเสียงของ Thickeลง ผมทำได้ "ไม่เลว" Fabian บอกผมหลังจากบทเรียน "คุณเรียนรู้ได้เร็วกว่านักเรียนส่วนใหญ่" นั่นทำให้มั่นใจขึ้น พร้อมกันก็รู้ว่างานจับจังหวะให้เข้ากันคืองานที่ต้องทำหลายอย่างพร้อมกันเหมือนกับการแก้โจทย์แคลคูลัสขณะที่ต้องรับมือกับมือใต้โต๊ะของสาวสวย ซึ่งเกือบเป็นไปไม่ได้แต่ทำให้สนุกใจที่สุดคำชมของ Fabian สำหับผมและนักเรียนคนอื่นๆ ของเขา คือเรื่องอันตราย ตั้งแต่ Scratch DJ Academy เปิดในชิคาโก ค่าเรียนเพิ่มขึ้นทุกเทอม แน่นอน Fabian บอกว่านักเรียนส่วนใหญ่ของเขาไม่ชื่อจนคิดว่าพวกเขาจะกลายเป็นคนที่ช่วยสร้างความสุขในงานรื่นเริงชื่อดัง แต่ด้วยแฟชั่นการเป็นดีเจจึงมีคนหลากหลายมาเข้าเรียน เทอมนี้มี Ruben วัยต้น 20 กับมาดมั่นใจห่วงจมูกและเฮดโฟนคล้องคอ Jeff วัย 50 กว่าๆ สวมเสื้อแจ็กเก็ตทีมฟุตบอล ที่มาครั้งแรกเพราะลูกสาวพามา แต่ตอนนี้เขาวางแผนจะลงเรียนคอร์สดีเจ และ Ali วัย 30 ต้นๆ แร็บเปอร์จากตุรกีที่มาในชุดแบบMichaelJackson สวมแว่นดำ เขามาจากอิสตันบูลเพื่อเรียนเป็นตี๋เจ เขาเหมือน Fabian ที่แสดงและหารายได้จากการแสดงเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ตอนนี้กลุ่มดีเจรุ่นใหม่พร้อมจะเปิดตัวแล้ว

"วงการดีเจเข้าถึงคนทุกกลุ่ม" Fabian บอกต้องใช้ความรักไ แคนน้องเขยของผม Eddie วัย 34 ปี ตะโกนใส่ผม ผมอยู่ในห้องนอนของน้องสาวก้มหน้าใส่อุปกรณ์ดีเจรุ่นเก่า เครื่องเล่นแผ่นเสียงสองเครื่องและมิกซ์เซอร์ Dylan หลานที่เพิ่งเกิดของผมร้องจ้าขณะที่เราเปิดเพลงอยู่ใกล้ๆ คอกกั้นของเขา

"ค่อยๆ ใช้นิ้ว ผมอยากให้มือของคุณครอบขอบมันไว้" Eddie ผู้เคยเปิดแผ่นมาเป็นสิบปีตั้งแต่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยกำลังสอนวิธีที่ดีเจใช้แผ่นเสียง ไม่มีอุปกรณ์ดิจิตอล ต้องใช้ความละเอียดอ่อนแบบผู้กำกับหนัง การสัมผัส ความรู้สึก จิตวิญญาณที่เข้าถึงเพลงการดีเจโดยไม่มีเทคโนโลยีช่วยเหลือ ช่วยเอาเขาออกไปที่ผมยำที่เขาพยายามให้ผมเข้าใจถึงแรงผลักตันที่เขาทำกับงานแบบดั้งเดิม แม้ผมจะไม่สามารถทำได้แต่ก็ประหลาดใจว่า แม้งานดีจจะเป็นศาสตร์ที่ต้องฝึกฝนการผสมผสานของเครื่องจักร แต่ถ้าเขาไม่สามารถผลิตเพลงของตัวเองได้ แล้วเมื่อไหร่ที่เขาจะยืนอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร?

"มันเป็นเกมของผู้ผลิต" Bad Boy Bill พูด Bill เคยเป็นหนึ่งในดีเจชั้นนำในช่วงทศวรรษ 1990 แต่ไม่เคยผลิตอะไรมากกว่าชิงเกิ้ล เขายังชีพด้วยอาชีพดีเจแต่ตอนนี้ก็ต้อเปลี่ยน อย่างเช่นไปทำงานในคลับโชว์ใกล้ๆเขาระบายความรู้สึกว่า "เรื่องราวต่างๆ มันทำให้ผมเศร้า" เขาพูดถึงกระบวนการผลิต"พอผมเห็นบางคนไปที่นั่นใช้โปรแกรมที่เตรียมไว้ เขาไม่ได้สร้างอะไรใหม่ๆ เป็นแค่หุ่นกระบอกเท่านั้น" วันต่อมาผมใส่โปรแกรมผลิตเพลงชั้นเยี่ยม Ableton Live เข้าไปในเครื่องโน้ตบุ๊คจากนั้นอีก 12 ชั่วโมงผมก็นั่งจ้องด้วยความหมดหวังมันเหมือนกับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ วางโครงสร้างเพลง? เรื่องบ้าๆอย่างนี้มันชับซ้อนไป ผมขอแค่เสียงตดสังเคราะห์ออกจากลำโพงก็พอผมรู้สึกยิ่งกว่าท้อแท้ผมเลยไปปรึกษา

Afrojack

บาคาร่า

"ผมสามารถสอนให้คุณสร้างเพลงได้ใน 5-10 นาที" เขาบอก ถ้าเขามีเวลามันอาจจะเป็นเพราะปริมาณแอลกอฮอล์ที่ผมดื่มเข้าไปหรือความจริงที่ว่างานดีจีที่ผมทำไปทำให้มีคนยื่นมือมาทักทาย แต่เมื่อจบการแสดงที่ John Barleycorn ผมรู้สึกเหมือนกับผ่านการพิสูจน์เป็นดีเจ แน่นอนว่าการเชื่อมจังหวะของผมอาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบ และผมพลาดใหญ่ไปหนึ่งครั้งเพลงหนึ่งเปิดขึ้นมาระหว่างที่เปิดอีกเพลง ทันทีภรรยาของผมก็แอบหัวเราะในลำคอ ผมไม่สนใจ ยังคงมีความมุ่งมั่น บทพิสูจน์ที่แท้คือฝูงคนที่ผงกหัวอยู่ต่างหาก "พระเจ้า นั่นมหัศจรรย์มาก" เพื่อนที่เมาแล้วของผมพูดกับผมขณะกำลังลงบันได ผมอยากได้ความเห็นที่ตรงไปตรงมา ผมมองหาเพื่อนสนิทของผม Jason เขาไม่เคยโกหกผม

"ผมแย่แค่ไหนเพื่อน?" ผมถามเขา"ไม่แย่" เขาตอบ "มันก็เหมือนกับที่ดีเจคนอื่นๆ เขาเปิดเวลาเราไปที่บาร์กัน"สมองผมทำงานอย่างหนัก เริ่มคิดเรื่องบ้าๆ หลายอย่าง บางทีผมอาจจะใช่ ดีเจจริงๆ

แล้วผมก็หยุดคิดนึกถึงสิ่งที่ Fabian เคยบอกกับผม

"มีคนมากมายที่อยากจะเป็นดีเจข้างนอกนั่น" เขาพูดตรงๆ "นั่นคือปัญหาที่แท้จริง"ผมรู้ความจริง ผมคือหนึ่งในคนที่อยากจะเป็น คุณคิดว่าผมสนใจหรือ? หลังจากนั้นอีกสองชั่วโมง กับวอดก้าโทนิค 3 แก้ว และการเข้ามาแสดงความยินดีอีกเป็นโหล...ผมคือดีเจ Lips